1688 เช็ค! 5 ขั้นตอนเริ่มต้นธุรกิจนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ

1688 ขั้ันตอนเริ่มต้นธุรกิจนำเข้าสินค้า bkkshipping 1688 1688 เช็ค! 5 ขั้นตอนเริ่มต้นธุรกิจนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ 5                                                                   bkkshippingweb 768x402

1688 เว็บไซต์ขายส่งสินค้าจีนที่เหมาะสำหรับนักธุรกิจมือใหม่ และผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์ของตัวเอง ยิ่งสั่งซื้อมาก ยิ่งคุ้มและซื้อได้ในราคาเทียบเท่ากับต้นทุนเลยทีเดียว

ปัจจุบัน ธุรกิจนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพื่อนำมาขายต่อนั้น จัดเป็นธุรกิจที่กำลังไปได้สวยและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะการสั่งซื้อสินค้าจีนจากเว็บไซต์ 1688 เนื่องจากมีราคาถูกและของให้เลือกมากมายกว่า 1 ล้านรายการ อย่างไรก็ตาม บางคนอาจนำเข้าสินค้าด้วยตนเอง คือบินไปเลือกสินค้าด้วยตนเองถึงต่างประเทศ ในขณะที่บางรายใช้บริการบริษัทชิปปิ้งเพื่อดำเนินการนำเข้าให้

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจนำเข้าสินค้าเพื่อนำมาขายต่อนั้น BKK Shipping มีข้อมูลสำหรับการเริ่มต้นทำธุรกิจดังกล่าวมาฝากเป็น Step by Step

  1. หาสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาด และวิเคราะห์พิกัดภาษีนำเข้า

การมองหาสินค้าเพื่อนำเข้ามาขายนั้น เป็นเรื่องพื้นฐานเบื้องต้นที่ยากที่สุด ในขั้นตอนนี้ คุณต้องวิเคราะห์ดูว่าสินค้าใดกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดและกำลังอินเทรนด์ การเลือกของเข้ามาขาย ไม่ใช่เลือกตามความชอบ แต่ต้องเลือกตามตลาดด้วย นักธุรกิจมือใหม่ควรจะติดตามข่าวสารและอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอหรือเข้าไปดูสินค้าในเว็บไซต์ 1688 ก็จะสามารถรู้ถึงเทรนด์ล่าสุดว่าอะไรกำลังได้รับความนิยม

นอกจากนี้ การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศนั้น จะต้องเสียภาษีอากรตามกฎหมาย โดยเฉพาะหากเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยนั้น รัฐบาลจะจัดเก็บอากรขาเข้าในอัตราค่อนข้างสูงเพื่อให้ประชาชนบริโภคน้อยลง แต่ถ้าเป็นสินค้าเพื่อประโยชน์ด้านการศึกษาและกีฬา เกษตรกรรม ฯลฯ รัฐจะจัดเก็บค่าอากรในอัตราที่ต่ำกว่า

  1. ติดต่อบริษัทชิปปิ้งเพื่อนำเข้าสินค้า

การติดต่อกับบริษัทชิปปิ้งหรือตัวแทนนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศนั้น ในยุคก่อนอาจเป็นเรื่องที่ยาก กว่าจะเจอบริษัทชิปปิ้งที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ รวมทั้งมีเรทเงินค่าขนส่งที่ได้มาตรฐานยุติธรรม หากแต่ปัจจุบัน มีบริษัทชิปปิ้งที่มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ และได้มาตรฐานระดับสากล อาทิ BKK Shipping ซึ่งรองรับลูกค้ารายบุคคล โดยสามารถดำเนินการนำเข้าผ่านทางรถบรรทุกและทางเรือได้ตามต้องการ มีประกันภัยสินค้า จัดส่งถึงบ้านทั่วไป และ Max Logistics ชิปปิ้งจีนครบวงจรที่ดำเนินการนำเข้าสินค้าแบบถูกต้องตามกฎหมาย ดำเนินพิธีการศุลกากรให้ รองรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กรหรือบริษัทที่ต้องการนำเข้าในปริมาณมากๆ เป็นต้น

  1. สร้างเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลเพื่อขายสินค้า

เมื่อคุณมีสินค้าพร้อมขายแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างช่องทางในการขายสินค้า โดยเฉพาะเว็บไซต์ ซึ่งเป็นช่องทางยอดนิยมและเปรียบเสมือนหน้าร้านค้าที่ลูกค้าสามารถไปค้นหาสินค้าและเงื่อนไขการให้บริการต่างๆ ได้ โดยเว็บไซต์นั้นเปรียบเสมือนแกนหลักของร่างกาย ในขณะที่ช่องทางโซเชียลอื่นๆ เช่น เฟซบุ๊ค ไอจี เปรียบเหมือนแขนขาที่ช่วยส่งเสริมแกนหลักหรือส่งเสริมการขายเท่านั้น การที่ร้านค้ามีเว็บไซต์ของตัวเอง จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าและยืนยันการมีตัวตนอยู่จริง

  1. ศึกษาวิธีทำการตลาดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย

พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้ นิยมหาสินค้าทางโซเชียลมีเดียเป็นหลัก แล้วจึงเข้าไปดูข้อมูลของสินค้าต่อจากในเว็บไซต์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ คนไทยนิยมหาสินค้าผ่านทาง Google, Classified Website และ Facebook ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ช่องทางของโซเชียลมีเดียในยุคนี้ ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ร้านค้าต้องมี และมีเครื่องมือมากมายให้เลือกใช้งาน โดยแต่ละช่องทางนั้น ต่างมีจุดเด่นและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่าง อาทิ Facebook เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวางกว่าไอจี สามารถลงข้อมูลรายละเอียดได้มากกว่า ในขณะที่ไอจีจะเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบการดูภาพสวยๆ ข้อความสั้นๆ และเป็น Video Story    

  1. มองหาวิธีการโอนเงินและจัดส่งสินค้า

การโอนเงินและจัดส่งสินค้า จัดเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่จะทำให้การซื้อขายสินค้าเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ ร้านค้าออนไลน์จำเป็นต้องมีระบบการโอนเงินที่ง่ายสำหรับผู้บริโภค เช่น พร้อมเพย์ หรือการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคารที่มีความน่าเชือถือและตรวจสอบได้ มีหลักฐานยืนยัน เพื่อนำไปสู่การจัดส่งสินค้าตามลำดับ อย่างไรก็ตาม สำหรับการจัดส่งสินค้านั้น ผู้ขายควรเลือกบริษัทจัดส่งที่ให้บริการรวดเร็ว ไว้ใจได้ มีระบบตรวจสอบทุกความเคลื่อนไหว เนื่องจากปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูง และลูกค้าจำนวนมากมักไม่ต้องการรอสินค้านาน เป็นต้น