1688 ‘ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง’ แอปผ่อนจ่าย 0% รองรับเศรษฐกิจชะลอตัว

1688 แอปจ่ายก่อน ผ่อนทีหลัง BKK Shipping 1688 1688 ‘ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง’ แอปผ่อนจ่าย 0% รองรับเศรษฐกิจชะลอตัว 1688                                                                  BKK Shipping 768x402

1688 เว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์สัญชาติจีน ซึ่งเป็นเว็บขายราคาส่ง ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับผู้ประกอบการคนไทย 

จุดเด่นของเว็บไซต์ 1688 คือยิ่งซื้อมาก ยิ่งประหยัดต้นทุน และสามารถออกแบบแบรนด์ของร้านค้าเองได้

อย่างไรก็ตาม ความน่ากลัวของการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ในยุคก่อนนั้นคือ ความไม่ปลอดภัยในการชำระเงิน หากแต่ปัจจุบันมีการพัฒนาระบบการชำระเงินให้มีความรัดกุมและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้บัตรเครดิต การโอนเงินผ่านธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วให้กับผู้บริโภคได้ ทำให้การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ Taobao Tmall และ 1688 ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก 

เมื่อหลายปีก่อน ในออสเตรเลียมีบริการชำระเงินในรูปแบบดิจิตอลที่เรียกว่า Afterpay แอปพลิเคชันชำระเงิน ‘Buy Now Pay Later’ เป็นบริการผ่อนจ่ายสินค้าโดยไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งเป็นรูปแบบการชำระเงินที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศออสเตรเลีย และเติบโตเร็วมาก โดยลูกค้าจะได้รับผลิตภัณฑ์ทันที ไม่ว่าคุณจะช็อปปิ้งออนไลน์หรือในร้านค้า โดยเฉพาะร้านค้าปลีกนิยมใช้บริการดังกล่าวอย่างแพร่หลาย เพื่ดลดข้อเสียเปรียบทางการค้า ตอบสนองรูปแบบการใช้เงินของคนยุคปัจจุบัน รวมทั้งรองรับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงเวลานี้ได้เป็นอย่างดี

สำหรับวิธีการชำระเงินรูปแบบดังกล่าว ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2018 โดยพบว่า ลูกค้ามีการใช้งาน Afterpay จำนวนมากกว่า 1.5 ล้านรายเพื่อซื้อสินค้า คิดเป็นมูลค่าประมาณพันล้านดอลล่าร์จากร้านค้า 12,000 แห่ง โดยเฉพาะชาว Millenials หรือคน Gen Y นั้น พบว่านิยมใช้บริการ Afterpay, Zip Pay และบริการอื่นๆ ที่คล้ายๆ กัน รวมไปถึงลดการใช้บัตรเครดิตลง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาหนี้บัตรเครดิตที่จะตามมาในภายหลัง

โดยจุดเด่นของ Afterpay นั้น จะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากลูกค้าที่มีการชำระเงินตรงเวลา และการผ่อนจ่ายชำระสินค้าของ Afterpay นั้น จะแบ่งเป็นการจ่ายทุกๆ 14 วัน หากไม่ชำระภายใน 1 สัปดาห์ จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมประมาณ $7

เพราะฉะนั้น รายได้ส่วนใหญ่ของ Afterpay นั้น มาจากการเรียกเก็บเงินจากผู้ค้าปลีก บริษัทสร้างรายรับจากร้านค้าปลีกมากกว่า 37.1 ล้านดอลล่าร์ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2018 โดยมีค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 10.8 ล้านดอลล่าร์ เนื่องจากลูกค้าบางรายไม่สามารถชำระคืนได้ ซึ่งนำไปสู่หนี้ที่ค้างชำระจำนวน 6.8 ล้านเหรียญดอลล่าร์ ซึ่งถูกตัดโดยบริษัท 

อย่างไรก็ดี ผู้ค้าปลีกดูเหมือนจะชอบบริการ ‘Buy now, Pay later’ เนื่องจากผู้ซื้อสามารถซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น รวมทั้งการสมัครใช้ Afterpay นั้น ยังไม่มีการตรวจสอบผู้สมัครใช้งานเหมือนกับการสมัครบัตรเครดิตอื่นๆ บริการดังกล่าวนี้ จึงดึงดูดกลุ่มประชาการที่มีอายุน้อยหรือระหว่าง 18-34 ปี โดยคิดเป็น 67% ของฐานลูกค้าทั้งหมดของ Afterpay

สำหรับแอปจ่ายก่อน ผ่อนทีหลัง ดูจะเข้ากับภาวเศรษฐกิจชะลอตัวในปีนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้คนนิยมหันมาใช้แอปผ่อนของมากขึ้นเพราะบัตรเครดิตไม่ผ่านหรือมีเงื่อนไขสำหรับผู้มีรายได้ต่อเดือนขั้นต่อ 15,000 บาท อีกทั้งรายได้ประจำเดือนอาจจะไม่เพียงพอกับการจับจ่ายใช้สอย 

ทั้งนี้ แอป Afterpay นั้น อาจช่วยอำนวยความสะดวกในการให้ได้มาของสินค้าที่ต้องการ แต่ผู้ใช้ก็จำเป็นต้องมีวินัยในการใช้จ่ายและการผ่อนชำระเงินให้ตรงตามเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด

ที่มาข้อมูล : https://www.choice.com.au/shopping/online-shopping/buying-online/articles/what-is-afterpay-and-can-it-be-trusted-170320