1. สร้างประสบการณ์มาสู่ลูกค้า
ในขณะที่อีคอมเมิร์ซนำมาซึ่งการปฏิวัติร้านค้าปลีกด้วยการช็อปปิ้งออนไลน์ แต่ผู้บริโภคทั่วโลกยังคงต้องการ คำแนะนำ และความช่วยเหลือจากร้านค้าปลีกออฟไลน์ ที่นอกเหนือไปจากการสัมผัสสินค้า ดังนั้น ผู้ค้าปลีกออฟไลน์จึงควรใช้โอกาสนี้ นำเสนอประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับลูกค้า เช่น ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้อย่างมั่นใจ ความต้องการดังกล่าวของลูกค้าเป็นแรงผลักดันให้กับช่องทางของร้านค้าปลีก ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ให้มีการพัฒนาด้านบริการที่ครอบคลุมมากกว่าเดิม ตัวอย่างเช่นแบรนด์ระดับโลกอย่าง IKEA และ Index

2. เอาชนะ E-commerce ด้วยสินค้าคงคลังเสมือนจริง
เหตุผลหลักๆ 2 ประการที่ทำให้ผู้บริโภคหันไปสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ คือราคาถูก และสะดวกสบาย แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ร้านค้าปลีกออฟไลน์กลับประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านการลดราคา และมีสินค้าคงคลังให้เลือกมากมาย แม้ว่าร้านค้าปลีกออนไลน์จะนำเสนอสินค้าให้ลูกค้าเลือกได้ง่ายกว่าผ่านแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ แต่การซื้อสินค้าจากร้านค้าออฟไลน์ ทำให้ลูกค้าต่อรองราคาได้มากกว่า อีกทั้งมีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้นบนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และโซลูชั่นสินค้าคงคลังเสมือนจริง ( Virtual Inventory)

3. Search Engines และ Social Media ไม่เพียงแค่มีอิทธิพล แต่จะนำไปสู่การขาย
ตามรายงานของ BigCommerce ในสหรัฐอเมริกาปี 2018 เกี่ยวกับพฤติกรรมการช็อปฯ ออนไลน์ของผู้บริโภค ระบุว่า 11.8% ของ Gen Z นิยมช็อปบน Facebook ในขณะเดียวกัน กลุ่ม Gen Y หรือกลุ่ม Millenials นิยมซื้อสินค้าจาก Instagram และ Snapchat และเกือบ 25% ของ Baby Boomers หรือ Gen B นิยมช็อปปิ้งบนแพลตฟอร์ม Social เนื่องจากเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น เช่น Google, Youtube, Line
แบรนด์ต่างๆ จึงมีโอกาสทำความเข้าใจกับข้อมูลประชากรของผู้ใช้และกำหนดขอบเขตในการเข้าถึงคนกลุ่มต่างๆ เหล่านี้ รวมไปถึงค้าปลีกออฟไลน์ส่วนใหญ่ ที่มักจะมีปัญหาเรื่องการค้นหาใน Search Engine แต่พวกเขาก็เริ่มเรียนรู้ที่จะใช้ช่องทางการตลาดเหล่านี้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเช่นกัน

4. Omni-Channel จะกลายเป็นบรรทัดฐาน
การผสมผสานช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าจะพัฒนาไปสู่ความหลากหลาย (Omni-Channel) เช่น ประกอบด้วย Online และ Ofline เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เมื่อคู่แข่งจากทุกทิศทางกำลังจับตาดูผู้บริโภคของคุณอย่างดุเดือด การสร้าง Brand Identity กลายเป็นสิ่งจำเป็น และร้านค้าปลีกต้องตรวจสอบว่าลูกค้าเป้าหมาย สามารถช็อปฯ ผ่านช่องทาง Offline ได้ ขณะเดียวกันก็สามารถช็อปฯ ผ่านช่องทางดิจิตอลได้เช่นเดียวกัน

5.เทคโนโลยี AR & VR จะช่วยให้ร้านค้าเฟื่องฟู
เทคโนโลยีเฉพาะด้านอย่าง AR (Augmented Reality ) และ VR (Virtual Reality) นั้น ถึงแม้ว่าจะยังไม่ถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่สำหรับร้านค้าปลีกออนไลน์ อาจมีเพียงบางอุตสาหกรรมเท่านั้นที่นำมาใช้งาน เช่น อุตสาหกรรมการก่อสร้าง การตกแต่งบ้าน และแบรนด์แฟชั่น เป็นต้น

ที่มาข้อมูล : https://retail.economictimes.indiatimes.com/news/industry/5-trends-that-will-shape-offline-retail-in-2020/73249360